
Friday, October 26, 2007
Friday, October 19, 2007
The End of Space
Wednesday, August 8, 2007
The Pruta Boy

>>





Wednesday, August 1, 2007
I Dream 3 " White Project "

:: Apple Thailand ร่วมกับ คณะศิลปกรรมศาสตร์ ได้มีโครงการดีๆ เป็นโครงการประกวดการทำหนังสั้น ที่เปิดโอกาสให้กับเด็กๆมัธยมได้โชว์ฝีมือกัน
>>
:: Poster by Dusadee Boonchaisri ::
System เวลาและระบบการเดินทาง ( update )
^ :: เมื่อได้ข้อมูลจากการบันทึกเรื่องเวลาและการเดินทางในวันวันนึงแล้ว ก็จะมีอีก3เรื่องเข้ามาเกี่ยวข้องซึ้งผมคิดว่ามันน่าสนใจและก็สามารถเป็นประโยชน์ต่องาน คือ เรื่องของพาหนะที่ใช้เดินทางเรื่องของเงินที่ใช้ไปในการเดินทางในแต่ละครั้งและเรื่องของระยะทางในการเดินทางก็ได้มีการจดบันทึกไว้ด้วย และก็นำข้อมูลที่ได้มาแทนค่าลงในตารางที่ได้กำนดขึ้น โดยการใช้สีต่างๆเป็นตัวแบ่งชนิดของยานพหะนะที่ได้ใช้เดินทางในแต่ละครั้ง สีที่ใช้แทนค่าอาจจะยังอ้างอิงไม่ได้ว่าเพราะเหตุใดจึงต้องเป็นสีนั้นๆ จึงได้กำหนดขึ้นมาเองคร่าวๆเพื่อทำให้เห็นความแตกต่างของการเดินทางได้อย่างชัดเจน และแถบสีก็จะมีความยาวตามระยะเวลาของการเดินทางว่าใช้เวลาในการเดินทางไปกี่นาทีในแต่ละครั้ง และมีการบอกกำกับอีกว่าการเดินทางในหนึ่งครั้งนั้น ใชเงินไปเท่าใด และเดินทางไปได้ระยะทางเท่าไหร่
^ :: ข้อมูลทั้งหมดที่จดบันทึกมาและนำลงมาแทนค่าลงในตาราง
^ :: ข้อมูลสรุปทั้งหมด คือ ในหนึ่งเดือนที่ทำการบันทึกข้อมูลนั้น ได้เดินทางจริงๆทั้งหมดเพียง 16 วัน ใช้เงินไปทั้งหมดในการเดินทางเท่ากับ 2228 บาทได้ระยะทางในการเดินทางรวมทั้งหมด 2116.11 กม. ( โดยประมาณ ) ดังนั้น คิดหารเฉลี่ยก็จะได้ คือเงิน 1 บาท สามารถเดินทางได้ระยะทางประมาณ 0.95 กม. หรือ ประมาณ 949.78 เมตร ใช้เวลาเดินทางไปรวมทั้งหมด 2775 นาที หรือ 46 ชม. 15 นาที ดังนั้น การหาค่าเฉลี่ยได้อีกคือ เงิน 1 บาท สามารถเดินทางได้ระยะทางประมาณ 0.95 กม. หรือ ประมาณ 949.78 เมตร โดยใช้เวลาประมาณเพียง 1.25 นาที
^ ::เมือนำตางรางขอมูลที่ได้มาวางต่อกันตามลำดับในแนวนอนและถอดเส้นตารางออก ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ผมว่ามันมีความน่าสนใจเท่าทีควรแต่ก็อาจจะเป็นเพียงก้าวแรกของการทำงาน ซึ้งต้องนำผลที่ได้นี้ ไปประยุกต์และพัฒนาออกมาเป็นงานอีกในขั้นต่อไป
^:: เมือนำตางรางขอมูลที่ได้มาวางต่อกันตามลำดับในแนวตั้งและถอดเส้นตารางออก ก็จะได้ลักษณะที่ต่างไปกับการต่อกันในแนวนอน
Tuesday, July 10, 2007
System เวลาและระบบการเดินทาง
ผมเลยสนใจเรื่องระบบการเดินทางในแต่ละวันของตัวเอง ว่าในหนึ่งวันเราเดินทางโดยใช้เวลาไปเท่าไหร่และเดินทางโดยใช้พาหนะอะไรบ้างหรือว่าในวันนึงเราใช้เงินไปเท่าไหร่กับการเดินทาง งานนี่ทำไปเพื่อใช้ตัวเองเป็นตัวนำเสนอข้อมูลให้คนอื่นได้เห็นถึงความสำคัญของการเดินทางหรืออาจจะได้รู้ถึงว่าใช้อะไรเดินทางที่จะทำให้ถึงจุดหมายได้เร็วที่สุดหรือเงินที่เสียไปเราได้ระยะทางในการเดินทางทั้งหมดเท่าไหร่
>> เริ่มจากเริ่มบันทึกว่าตั้งแต่ออกจากบ้านเราใช้เงินไปเท่าไรกับการเดินทางใช้เวลาเท่าไหร่จากการเดินทางจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งและรวบรวมข้อมูล
^ เป็นตารางที่ทำขึ้นเพื่อบอกเวลาที่ได้เดินทางในแต่ละช้วงแนวตั้งคือ ชั่วโมง วันนึงมี24ชั่วโมง แนวนอนคือ1ชั่วโมงมี 60 นาที ส่วนที่เป็นแถบสีต่างๆคือเวลาในการเดินทางในแต่ละช้วงบอกว่าเราเดินทางตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมง และสีอาจแทนถึงพานะได้ด้วย
^ เป็นตารางในแนวตั้งที่เปลี่ยนเป็นแกนในแนวนอนคือชั่วโมงมี 24 ชั่วโมง แนวตั้งคือนาที 1 ชั่วโมงมี60 นาที
Friday, June 22, 2007
Thursday, June 14, 2007
Pocket Book

>>
เป็นอีกหนึ่ง Assignment ในวิชาออกแบบสิ่งพิมพ์ในการเรียนปี3 ซึงมีโจทย์ให้ทำหนังสือ pocketbook โดยส่วนตัวเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือ และก็ชอบงานสิ่งพิมพ์เอามากๆผมจะรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อซื้อหนังมาใหม่และก็รุ้นว่าแต่ละหน้าที่เราเปิดจะเป็นยังไงมีอะไร และเมื่อได้ทำงานที่เกี่ยวกับสิ่งมีก็จะรู้สึกดีจะรู้สึกสนุกไปกับมัน และงานนี้ผมทำ pocketbook ที่เกี่ยวกับเรื่องธรรมะ จริงโดยส่วนตัวเป็นคนที่ไม่ได้ชอบทำบุญเข้าวัดและจะไม่ค่อยสนใจอะไรที่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับศาสนาเท่าไรและก็เชื่อว่ามีหลายๆคนที่คิดเช่นนี้เรื่องนี้เลยกลายเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยมีคนในวัยเดียวกับผมพูดถึงและนำมาทำงาน แต่พอผมได้ลองอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ก็พบว่าจริงแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากมันมีทั้งเรื่องที่ผมเห็นด้วยและก็เรื่องที่ผมไม่เห็นด้วย และนี้คือจุดเริ่มต้นที่ผมหยิบเอาเรื่องนี้มาทำ...
>
และหนังสือที่ผมเลือกมาพัฒนาไหม่ก็คือหนังสือเกี่ยวกับธรรมะที่มีชื่อว่า " ศาสนา ดนตรี กวี ศิลปะ " เนื้อหาในหนังสือจะเกี่ยวกับการเปรียบเทียบเรื่องของ ดนตรี กวี และศิลปะในสมัยก่อนกับปัจจุบันว่า ดนตรีหรือศิปะในปัจจุบันนั้นเป็นเรื่องที่แย่ไม่สวยงามเหมือนในสมัยก่อนซึ่งโดยสวนตัวผมไม่เห็นด้วยกับเนื้อความที่เขียนในหนังสือนี้ผมแท้บไม่อยากอ่านต่อ และผมก็มาคิดดูว่าเนี่ยแหละคือความน่าสนใจของการทำหนังสือเล่มนี้มันก็คือเหมือนคำสอนในศาสนานันแหละว่าทุกสิ่งทุกอย่างมี2ด้านเสมอ มีดีชั่ว ถูกผิด มีขาวมีดำ มันอยู่ที่ตัวเราเองว่าเรามีความคิดหรือทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องนั้นอย่างไร ในความคิดของผมธรรมะก็เหมือนการฟังเพลงการฟังเพลงมันทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายสบายใจ เพลงที่คนแต่ละคนฟังอาจจะเป็นเพลงคนละประเภทคนละแบบกันแต่มันก็ให้ผลที่เหมือนกัน
>
เมื่อผมมานั่งดูงานนี้มันทำให้ผมคิดว่าผมยังอยากทำและก็อยากพัฒนางานนี้ต่อไปพอย้อนกลับมาดูก็รู้ว่าเราวิธีคิดของเรามันยังน้อยและก็มันมีอะไรอีกหลายอย่างที่มันน่าจะพัฒนาต่อไปได้ผมว่ามันถึงเวลาที่ผมจะต้องกลับมาย้อนดูตัวเองดูสิ่งที่เราทำไปว่ามันใช้แล้วหรือเปล่าหรือบางทีผมอาจจะไม่ต้องไปค้นหาเรื่องอะรที่มันมากมายไกลตัวเลยแค่มารื้อสิ่งเก่าๆของตัวเราเองนี้แหละผมว่ามันน่าสนใจมากแล้ว...
Wednesday, June 13, 2007
My Illustrate
>>







