

^ งานนิทรรศการแสดงผลงานสุดท้ายก่อนที่จะจากการเป็นนักศึกษา จากโครงการที่จะทำหนังสือเพื่อแสดงความแตกต่างของดนตรีด้วยภาพ ได้กลายมาเป็นชิ้นผลงาน3มิติที่มีการแทนค่าและผ่านกระบวนการคิดและตีความจากดนตรีออกมาเป็นรูปทรงที่สามารถจับต้องได้และใช้คุณสมบัตรของวัสดุแต่ละชนิดมาแทนดนตรีแต่ละประเภทดนตรีบลูจะเป็นเหล็กที่พ่นสีดำเปรียบเสมือนความหม่นเศร้าของคนที่ถูกกดขี่ข่มเหงจนได้กลายมาเป้นดนตรีบลูย์ อะคิลิคใสแทนดนตรีแจ็สที่สามารถอิมโพไวท์ไปตามอารม์ของผู้เล่นไม่ตายตัว และเหล็กแทนความเป็นดนตรีร็อก








ระหว่างการแสดงงานมีหลายคนมาถามว่าชิ้นงานนี้มันคืออะไรสามารถนำไปใช่ทำอะไรได้หรือไม่คำตอบของผมคือไม่ได้...ความคิดที่เกิดขึ้นในหัวณ วินาทีนั้นก็คิดว่าคนที่ตั้งคำถามคงจะคิดว่าแล้วทำมาทำไมในเมื่อนำไปใช่ประโยชน์อะไรก็ไม่ได้.
ภาควิชาที่เรียนคือสาขาcommunication design หรือออกแบบสื่อสารการสื่อสารคือการที่ต้องทำให้คนอื่นเข้าใจว่าสิ่งที่เราต้องการบอกคืออะไร ทำเพื่ออะไร ทำไปให้ไคร และทำไปทำไม แต่งานที่แสดงอาจจะทำให้หลายคนเกิดคำถามว่าแล้วจะทำไปทำไม
แต่ก็อาจจะเหมือนดนตรี คนทำดนตรีขึ้นมาเพื่ออะไร ทำไปให้ไคร และทำไปทำไม ดนตรีมีประโยชน์จริงหรือ? ในความคิดของผม สิ่งที่ทุกคนได้รับประโยชน์จากดนตรีคือ ความรู้สึก เท่านั้นเอง ดนตรีก็คือศิลปะ เพลงหนึ่งเพลงอาจไม่ไพเราะสำหรับคนทุกคน ดนตรีไม่สามารถกำหนดความรู้สึกแต่มันสามารถทำให้เกิดความรู้สึกได้









